วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เรื่องเล่า... ศาลายา

        สวัสดีครับเพื่อน วันนี้เป็นวันดี 5555 วันฮาโลวีนนนน ผมก็มีเรื่องเล่าสนุกมาแบ่งปันกัน
เป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องผี ให้เข้ากับวันฮาโลวีน !!
เรื่องที่ผมจะนำมาเล่าเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยที่ผมอยู่ ก็คือ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นั้นเองครับ
แค่ได้ยินชื่อ บางคนก็ขนลุกซะแล้ว หุหุหุหุ
เรื่องที่ผมจะมาเล่านั้นเป็น 3 เรื่องที่ได้รับการกล่าวขานมาอย่างยาวนาน จนเด็กปี 1 เข้ามาทุกๆปีต้องผวากันไปตามๆกัน


เปิดเพลงประกอบกันหน่อยยยยย


เรื่องที่ 1 คือเรื่องคอนโด ประตู 3
         คอนโดที่พักนักศึกษาบริเวณประตูสามของมหาวิทยาลัย จะถูกจองตั้งแต่เดือนเมษา แต่จะมีอยู่ห้องหนึ่งในคอนโดที่มียันต์ประไว้ที่หน้าประตู บรรยากาศของห้องนี้จะอารมณ์หม่นๆ มัวๆ ทุกครั้งที่เดินผ่านจะเหมือนมีสายตาเฝ้ามองอยู่ตลอด ใครที่เคยอาศัยอยู่ย่อมรู้ถึงความกดดันได้เป็นอย่างดี ประวัติของห้องนี้ก็มีอยู่ว่า...........
         ช่วงปิดเทอมเมื่อหลายปีก่อน มีเด็กภาคอินเตอร์คนหนึ่งกรอกยาฆ่าตัวเองตาย กว่าเพื่อนๆ จะไปพบ ศพมันก็อืด เน่าจนแทบจำไม่ได้ ภายหลังสืบทราบมาว่านักศึกษาคนนี้เป็นผู้หญิงอยู่ปี 2 น้อยใจแฟนก็เลยประชดด้วยการฆ่าตัวตาย พองานศพเสร็จ เพื่อนๆ ร่วมห้องต่างก็ทำใจไม่ได้ ก็เลยจัดการขอย้ายไปพักที่อื่น จนกระทั่งคนที่ย้ายมาอยู่ใหม่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ตกกลางคืนก็มักจะได้ยินเสียงเปิดก๊อกในห้องน้ำ บางครั้งก็ได้ยินเสียงกุกกักทั้งๆ ที่ในห้องนั้นไม่มีใครแม้แต่คนเดียว
         แต่นั่น ก็ไม่ร้ายแรงเท่านักศึกษาบางคนที่กำลังนอนหลับ เหลือบไปเห็นผู้หญิงหน้าตาบวมปูดเหมือนศพ จับขา และกระชากลงจากเตียง นักศึกษา ม.มหิดลที่เคยไปอาศัยอยู่ในห้องเจ้าปัญหานั้น การันตีความเฮี้ยนระดับห้าดาว!!! รูมเมทบางคนมองเห็นผู้หญิงเดินไปเดินมาในเวลากลางคืน และมักได้ยินเสียงร้องไห้ปนโกรธแค้นที่ถูกทอดทิ้ง หลายคนก็ถูกผีอำจนอยู่ไม่ได้ เครื่องใช้ไฟฟ้า-ข้าวของเปิดปิดเอง เคลื่อนที่ได้เองอย่างน่าสงสัย เป็นอีกเรื่องที่ถุกพูดถึง และขึ้นชื่อเฮี้ยนสุดๆ ในรั้วศาลายา
#เรื่องนี้ถ้าให้ถูกน่าจะเป็นประตู 5 นะครับ คอนโดมหิดลอยู่ประตู 5

"เดินคนเดียวระวังนะครับ..."

เรื่องที่ 2 : วันมหิดล เตียง C
         เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลอนไม่แพ้กัน เป็นความเชื่อเกี่ยวกับวันสำคัญของมหาวิทยาลัยมหิดลซึ่งกล่าวถึงนักศึกษาคณะแพทย์ศิริราชคนหนึ่ง (ต่อไปจะขอเรียกสั้นๆ ว่า SI )ที่จะกลับมาเยี่ยมเยียนหอพักในวันนี้ของทุกๆ ปี โดยการกลับมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยในครั้งนี้เขาจะแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาเสื้อนั้นย้อมด้วยเลือด และร่างเต็มไปด้วยบาดแผล เรื่องนี้จัดเป็นอันดับต้นๆ ของความเฮี้ยนสุดยอดในวิทยาเขตศาลายา
         นานมาแล้ว นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลคนนี้ ได้ประสบอุบัติเหตุรถชน ขณะข้ามถนนมายังมหาวิทยาลัยบริเวณหน้ามหาวิทยาลัย อาจเป็นเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจึงไม่รู้ตัวเองว่าได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว และห้องพักดังกล่าวที่นักศึกษาแพทย์คนนี้อาศัยอยู่กลายเป็นเรื่องถูกปิดตายมาตลอด
         เรื่องนี้ถูกเล่ากันว่าทุกคืนของวันมหิดล นักศึกษาของหอนี้จะย้ายออกไปนอนที่อื่นจนหมด จนสภาพกลายเป็นหอร้าง ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว เพราะทราบแต่เพียงว่า เตียง C ซึ่งเป็นเตียงนอนของนักศึกษาคนนี้ ในคืนวันมหิดลเท่านั้นที่จะพบเห็นเขาได้ ถ้าอยากทราบว่าความเฮี้ยนนั้นขนาดไหน? ก็ลองสัมผัสได้จากบรรยากาศที่ไม่มีใครพูดถึง เรื่องนี้ในคืนนี้ ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นที่สนุกปากขนาดไหนก็ตาม
#เรื่องนี้ทุกวันนี้หลายคนก็มีวิธีแก้เคล็ดนะครับ เช่นเขียนหน้าห้องว่าเตียง C เต็มแล้ว หรือห้องนี้ไม่มีเตียง C  เป็นต้น  แต่ผมก็อยู่หอในมา 3 ปียังไม่เคยเจอเลย หุหุหุ
 "ใต้เตียงเพื่อนๆล่ะ มีใครซ่อนอยู่มั้ย?"

เรื่องที่ 3  : ตำนานเพลง "รักน้อง"
         "เจ้านกน้อย ล่องลอยโผบิน จากแผ่นดินทะเลสีคราม..." นี้เป็นเนื้อเพลงรักน้อง หรือเจ้านกน้อยอย่างที่ใครหลายๆ คนพูดจนชินปาก เพลงอาถรรพ์ของชาวศาลายา มีเรื่องเล่ากันว่านักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งถูกผู้เป็นพ่อแม่บังคับให้เรียนในสิ่งที่ไม่เต็มใจ ด้วยความเสียใจ ประกอบกับคิดว่าไม่มีใครเข้าใจอีกแล้ว นักศึกษาพยาบาลคนนั้นจึงปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า ของหอพักและเขียนเนื้อเพลงนี้ไว้ ก่อนจะทิ้งร่างลงมาสู่พื้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ตั้งแต่บัดนั้นมา เพลงรักน้อง จึงเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกความระลึกถึงนักศึกษาพยาบาลคนนั้น
         และชาว ม.มหิดล ศาลายา จะถือกันว่า เพลงนี้ห้ามร้องในเวลากลางคืนเป็นอันขาด และถ้าใครคนใดคนหนึ่งร้องขึ้นมาแล้ว ต้องร้องต่อจนจบเพลง มิฉะนั้น จะเท่ากับเป็นการเรียกนักศึกษาพยาบาลคนนั้นกลับมา จนหลายๆ ครั้งก็มีเรื่องเล่าว่านักศึกษาพยาบาลคนนั้นมักจะปรากฏตัวให้นักศึกษารุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ได้เห็นบ่อยๆ ในลักษณะกระโดดจากตึกดาดฟ้าหอพักลงมาสู่พื้น เมื่อนักศึกษาใหม่คนนั้นตั้งสติได้ และเรียกให้คนมาช่วย พอไปถึงจุดเกิดเหตุกลับปรากฏว่า ไม่มีร่องรอยใดๆ อยู่เลย !!
         ปัจจุบันมีหลายเสียงที่ยืนยันเกี่ยวกับตำนานเรื่องนี้มาว่า "เนื้อเพลงรักน้อง" ได้ถูกแต่งขึ้นโดยนักศึกษาคนหนึ่งของ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งตอนนี้นักศึกษาคนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่


 "ดาดฟ้าคณะอาจมีใครมองเราอยู่นะ"


จบไปแล้วกับเรื่องเล่าทั้งสามเรื่องที่ติดหูเด็กมหิดลกันทุกคน
ผมก็ขอเล่าเรื่องผีที่มาจากประสบการณ์จริงบ้างดีกว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนรูมเมทผมครับ ตอนนั้นพวกเราอยู่ปี 1 อาศัยที่หอในมหิดล หอ 8 ตอนนั้นไม่ใช่วันมหิดลครับ รูมเมทผมคนหนึ่งบอกว่า ข้างห้องมาเล่าให้ฟังว่า เคยเห็นนางรำมารำกลางห้อง ซึ่งห้องที่บอกว่าเห็นห่างจากห้องผมไป 2-3 ห้องเองตอนนั้นพวกผมก็ไมได้คิดอะไร ก็ใช้ชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยปี 1 ไปวันๆ จนกระทั่งไม่กี่อาทิตย์ต่อมา เพื่อนผมที่เจอเนี่ย เค้าไม่สบายนอนหลับอยู่ที่หอทั้งวันเลยจนตอนเย็นๆใกล้ค่ำ เค้าบอกว่าเค้าฝันเห็นนางรำมารำในห้อง ตกใจมากเลยโทรหาเพื่อนในกลุ่ม แต่ก็ได้สติตื่นขึ้นมาก่อน ก็คิดว่าคงฝันเลยลงมาหาพวกผมเพื่อไปหาอะไรกิน ตอนที่กำลังกินข้าวกันอยู่ เพื่อนผมในกลุ่มก็ถามเพื่อนที่ไม่สบายคนเนี่ยว่า "เห่ยเมื่อกี้โทรมามีไร" เพื่อนที่ไม่สบายผมถึงกับหน้าซีด และก็เล่าให้ฟัง พวกผมนี้ขนลุกกันหมด ยิ่งเป็นห้องผมด้วยเนี่ย โอยยยยยย  น่ากลัว แต่หลังผ่านคืนนั้นไปก็ไม่มีอะไรครับ

"นางรำน่ากลัว T_T"



ทุกเรื่องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของตัวท่านเองนะครับของแบบนี้ไม่เชื่อไม่ว่า แต่อย่าลบหลู่นะครับ

ขอบคุณเรื่องเล่าจาก : http://www.dek-d.com/lifestyle/27926/


วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Fraps อัดและโชว์ !

     สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาสอนวิธีการใช้โปรแกรมที่น่าสนใจสำหรับชาวเกมเมอร์กันนะครับ
...
..
.
โปรแกรมนั้นมีชื่อว่า  "Fraps" เป็นโปรแกรมอัดคลิปเกมที่เราเล่นครับ
วิธีใช้ง่ายๆเลย ก่อนอื่นหาโหลดก่อน :3 แต่ไม่บอกหรอกว่าโหลดได้จากไหน เพราะมันจะเป็นการสนับสนุนให้ใช้ของเถื่อน






เรามาที่หน้า Interface ก่อนเลย 
เมื่อเราเข้าโปรแกรมก็จะเจอแถบด้านบน(1)นะครับ
แถบด้านบนจะแบ่งออกเป็นแถบ General ซึ่งเป็นการตั้งค่าทั่วไป FPS,Movies และ Screenshorts
ส่วนแถบตั้งค่าด้านล่าง(2)จะเกี่ยวกับการตั้งค่าพื้นฐานทั่วไป เราไม่ได้ใช้ในส่วนนี้อยู่แล้ว ข้ามปายย






มาต่อกันในส่วน FPS
(1) จะเป็นที่เลือกเก็บการตั้งค่าของโปรแกรมโดยปรกติก็ไม่ค่อยได้ใช้
(2) กำหนดให้ค่าที่ตั้งไว้จำทุกครั้งที่เปิดใช้
(3) เลือกให้แสดงผลเฟรมเรทไว้ตรงส่วนใดของหน้าจอ หรือจะซ่อนก็ได้






มาในส่วนที่สำคัญที่สุดของโปรแกรมนี้กันนน Movies
(1) เลือกที่เก็บไฟล์วีดีโอที่เราถ่าย
(2) ส่วนตั้งค่าหลักก็จะมีการกำหนดปุ่มเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรม 
เลือก FPS ในการอัดคลิปยิ่งเยอะก็ยิ่งชัดแต่ไฟล์จะใหญ่มาก 555+ แนะนำที่ 30 เฟรมเรทต่อวินาที
เลือกขนาดไฟล์แนะนำให้ Half-size สำหรับคอมทั่วไป ถ้าใครคอมแรงก็ Full-size ไปเลย
(3) อัดเสียงจากในเกม ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องเสียงก็ข้ามไปได้เลย
#ในการใช้โปรแกรมถ้าเราตั้งค่าเสร็จห้ามปิดโปรแกรมนะครับ ให้เปิดค้างไว้






ส่วนสุดท้ายของโปรแกรม Screenshorts 
(1) เป็นที่เก็บไฟล์ภาพที่เราถ่ายไว้
(2) ตั้งค่าปุ่มที่เราต้องการใช้งานการถ่ายภาพ และสกุลไฟล์ 
แนะนำให้เป็น JPG นะครับง่ายต่อการนำไปใช้ต่อ

เมื่อเรารู้จักโปรแกรมกันไปแล้วก็มาลองใช้กันดูดีก่า
เมื่อเข้าเกมยังไม่อัดก็จะมีตัวเลขสีเหลืองที่ซ้ายบนะครับ


 แต่ถ้าทำการกดอัดคลิป ตัวเลขสีเหลืองที่ซ้ายบนจะเปลี่ยนเป็นสีแดง !


อัดแค่ 5 วินาทีขนาดไฟล์ 50MB จะอัดคลิปอะไรคิดดีๆก่อนนะครับ 55555
ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บ : http://tannykee.exteen.com/20110213/fraps



เป็นไงครับตัวโปรแกรมใช้ไม่ยากเลย 
เหมาะสำหรับคอเกมที่อยากโชว์ฝีมือตัวเองให้คนดูรับชม 5555
อย่าลืมนำไปใช้แล้วมาแชร์ฝีมือตัวเองกันนะครับบบบบบบบบบบบบบบบ







วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวสบายๆ สไตล์พ่อบ้าน

"เห่ย อยากไปทะเลวะ" 
คำๆนี้ได้ยินบ่อยมาก เวลาเพื่อนในกลุ่มผมคุยกัน
แต่ก็ไม่ได้ไปสักที จนมีโอกาสอันเหมาะเจาะ 
ทั้งเป็นวันเกิดเดือนคณะสุดเท่ ทั้งเป็นช่วงว่างหลังสอบ ทุกอย่างอำนวย
จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมา

"เที่ยวเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน"
"เหล่าชายหนุ่มทั้ง 7 กับทริปอินดี้เกาะล้าน"


ทริปนี้เราเดินทางในวันที่ 17-18 ตุลาคม 2557
เริ่มเดินทางตั้งแต่ 8.00 เช้ากว่าจะถึงที่นั้นเพื่อนั่งเรือก็ เที่ยงกว่าแล้ว 555

"สถานที่ที่เราต้องไปก่อนคือ แหลมบริฮาย พัทยา จังหวัดชลบุรี
เพื่อที่จะไปขึ้นเรือไปยังเกาะล้าน"

พอมาถึงยังไม่ทันกินข้าวเที่ยงก็ต้องรีบไปขึ้นเรือเพราะถึงรอบพอดี 5555
อากาศตอนนั้นร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก




"บรรยากาศบนเรือ ทั้งร้อน ทั้งหิว 5555"

ทันทีที่มาถึงก็ไม่รอช้า แวะร้านที่อยู่ตรงหาดตาแหวน ซัดอาหารมื้อแรกของวันเข้าไป
บอกเลยว่า แพงมาก 5555 มื้อนั้นประมาณ 500 กว่าบาทได้ ทั้งที่สั่งไปนิดเดียว
หลังจากที่เรารับประทานอาหารมื้อแรกของวันกันเสร็จ
ก็ต้องรีบนั่งรถสองแถวต่อเลย เพื่อไปยังหาดเทียน
ค่าสองแถวตกคนละ 40 บาท แต่เราเหมาคันครับ ไม่อยากต่อโดนไป 400 บาท 555+


"รูปค่อนข้างเบลอ เพราะเจ้าของรถสองแถวไล่ให้รีบ 55555"

บรรยากาศตอนนั่งรถสองแถวไปหาดเทียนบอกได้เลยว่าเยี่ยมสุดๆ 
อากาศไม่ร้อนมาก เพราะลมพัด 5555 แถมวิวก็แจ่มสุดๆ
...
..
.

และทันทีที่เรามาถึงหาดบอกได้คำเดียวว่า
"สวยมาก"
มันเป้นหาดที่ดูส่วนตัว และคนน้อยมาก น้ำยังใจอีกต่างหาก !!
"ความสวยงามของทะเลไทย ไม่ต้องไปไหนไกลบ้านเราก็มี :) "



"ระหว่างกำลังเดินหาห้องพักที่หาดเทียน เกาะล้าน สาวฝรั่งสวยเนอะ -.,-"

ที่หาดเทียนมีที่พักเพียงที่เดียว ราคา 1000/2 คน/1คืน
ไปกัน 7 คน เค้าคิด 3200 บาท (เพิ่ม 200/1คน)
ที่พักไม่มีไรมาก เตียง ห้องน้ำ พัดลม
แต่ไฮไลท์คือติดทะเล เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

"บรรยากาศที่พักติดกับทะเล"

พอตกดึกก็ไม่มีไรมาก เล่นน้ำ นั่งคุย ร้องเพลง 
บรรยากาศดีมากครับ เพราะด้วยความที่ทั้งหาดมีที่พักที่เดียว
และก็มีแค่เราอยู่ จึงทำให้ตอนดึก ทั้งหาดเทียน
"เป็นของเราาาาาาาาาาาาาาาาา"

"เวลา 18.00 กว่าๆ พูดได้เลยว่า หาดเทียนเป็นของเรา 5555"

หลังจากนั่งสังสรรค์กันเพลินๆก็แยกย้ายกันไปนอน
ตื่นเช้ามาเก็บบรรยากาศหาดเทียนอีกสักนิด
ก่อนนั่งเรือกลับพัทยา




ประสบการณ์ที่ได้ในครั้งนี้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
มันเป็นการเปิดโลก และได้รับประสบการณ์ที่ดีไปในตัว
เที่ยวครั้งหน้าพวกผมจะไปพาไปที่ไหน ติดตามชมนะครัชชช